โครงการวิจัย
ผลของการสักยารักษากลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบนเรื้อรัง
Effects of Tattoo medicine use on Chronic Upper Back Pain syndrome.
รายละเอียดโครงการ
| ปีงบประมาณ | 2566 |
| หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
| ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
| ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
| ประเภทงานวิจัย | โครงการพื้นฐาน |
| วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2565 |
| วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2566 |
| วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 21 พฤศจิกายน 2565 |
| ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
| สถานะโครงการ | แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต) |
| เลขที่สัญญา | - |
| เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
| เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
| บทคัดย่อโครงการ | อาการปวดหลังตอนบน (Upper back pain) เป็นอาการทางระบบกล้ามเนื้อ และกระดูก (Musculoskeletal disoders) บริเวณด้านหลังของทรวงอกและชายโครง รวมถึงอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ บ่า และสะบัก (ณรงค์ศักดิ์ 2561) ซึ่งความชุกของโรคสัมพันธ์กับกลุ่มอาการ Office syndrome โดยมักเกิดขึ้นที่บริเวณหลังส่วนบนมากที่สุด รองลงมาคือหลังส่วนล่าง ส่วนบริเวณข้อมือและแขนจะพบมากเป็นอันดับสาม สาเหตุมาจากการใช้คอมพิวเตอร์ หรือนั่งทำงานเป็นเวลานานมากกว่าหรือเท่ากับ 4 ชั่วโมงต่อวัน (หทัยรัตน์ และคณะ 2561) เนื่องจากรูปแบบการทำงานในปัจจุบันอยู่ในพื้นที่จำกัด การนั่งในรถ นั่งหน้าโต๊ะทำงาน รวมถึงความเครียด และขาดการออกกำลังกาย (จิตตาภรณ์ และคณะ, 2562) เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกอาชีพ โดยมีอาการปวดกล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานาน จนเป็นอาการปวดเรื้อรัง ส่วนผู้ป่วยรายที่มีอาการหนักอาจมีกล้ามเนื้อหดเกร็งค้าง ทำให้เกิดอาการเจ็บขึ้นมาขณะเคลื่อนไหวร่างกาย (Shariat et al, 2018) โดยจากข้อมูลผู้ป่วยโรคกระดูกและกล้ามเนื้อจากการทำงานของระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (2559) พบผู้ป่วยโรคกระดูกและกล้ามเนื้อ 81,226 คน (135.3/ประชากรแสนคน) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2558 ที่พบผู้ป่วย 72,486 คน (121.9 ต่อประชากรแสนคน) โดยพบมากในช่วงอายุ 30-50 ปี สัมพันธ์กับโรคที่เกี่ยวกับความปวดอื่นๆได้แก่ ไมเกรน ปวดกราม ปวดต้นคอ ปวดเอว หรือแม้แต่ปวด ชา แขน มือ จากการที่เส้นประสาทส่วนปลายถูกกดทับ เป็นต้น ปัจจุบันมีประชากรกว่าร้อยละ 30 มีปัญหาเรื่องโรคปวดกล้ามเนื้อหลังเรื้อรัง แนวทางบรรเทาอาการปวด และการรักษาในปัจจุบันมีหลายวิธี ได้แก่ การนวด ประคบสมุนไพร การใช้ยาสมุนไพรในการบรรเทาอาการเจ็บปวด การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ การกระตุ้นด้วยคลื่นแม่เหล็ก การรักษาด้วยคลื่นกระแทก การออกกำลังกาย การฝังเข็ม การรับประทานยา การรักษาด้วยวิธีทางกายภาพบำบัด ครีมหรือเจลบรรเทาปวด (โสภา และคณะ, 2562 ; ศุภวรรณ และคณะ, 2563) และการสักยา ในปัจจุบันราชกิจจานุเบกษาประกาศคระกรรมการหมอพื้นบ้าน เรื่อง ลักษณะ ประเภท หรือกรรมวิธีของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2562 ในการส่งเสริม ดูแล รักษา ฟื้นฟู ผู้ป่วย ที่มีการสืบทอดองค์ความรู้จากบรรพบุรุษ ด้านสมุนไพรในกรรมวิธีสักยา รักษาในกลุ่มโรคปวดกล้ามเนื้อ โดยการทำผิวหนังให้เป็นรูเพื่อให้น้ำยาซึมเข้าสู่บริเวณที่เป็นปัญหาโดยตรง โดยมีการใช้น้ำ และน้ำมันเป็นน้ำกระสายยา (Vehicle) ช่วยให้ยาเดินดีขึ้น (สุทธิรา และคณะ, 2559) โดยมีส่วนผสมของสมุนไพรมากกว่า 10 ชนิด ซึ่งมีไพลเป็นส่วนประกอบหลัก จากงานวิจัยก่อนหน้าพบว่าการนวดด้วยน้ำมันไพลสามารถลดระดับอาการปวดได้ (อำพล และคณะ, 2561) เนื่องจากไพลมีสารในกลุ่ม Terpenoids ที่ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อและมีฤทธิ์สำคัญในการต้านการอักเสบ (Lee et al, 2002) โดยโครงการวิจัยนี้จะก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ 1 เรื่อง ได้แก่ การสักยารักษาอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบนเรื้อรัง ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ทั้งยังสอดรับกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นหลักสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย และผลการวิจัยไปเผยแพร่ในวารสารระดับชาติ อย่างน้อย 1 เรื่อง |
| รายละเอียดการนำไปใช้งาน | โครงการวิจัยนี้จะก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ 1 เรื่อง ได้แก่ การสักยารักษาอาการปวดกล้ามเนื้อหลังส่วนบนเรื้อรัง ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ทั้งยังสอดรับกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นหลักสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย และผลการวิจัยไปเผยแพร่ในวารสารระดับชาติ อย่างน้อย 1 เรื่อง |
| เอกสารประกอบโครงการ |
|
ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
| ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
|---|---|---|---|---|
| 1 | ทิยานันท์ สวนกูล | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 50 |
| 2 | วสันต์ หะยียะห์ยา | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 30 |
| 3 | ศรินทร์รัตน์ จิตจำ | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |