การพัฒนาสิ่งสกัดหยาบที่มีคุณสมบัติ Quorum quenching ทนความร้อนสูงจากของเหลืออุตสาหกรรมการผลิตเอทานอลและการประยุกต์ใช้ในการควบคุมโรค AHPND ในกุ้งขาว

Development of heat-stable crude extract exhibiting quorum quenching from vinasse and application for AHPND control in white shrimp

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2564
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2563
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2564
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ธันวาคม 2563
ประเภททุนวิจัย ทุน ววน.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา005/2/2564
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ โครงการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาสิ่งสกัดหยาบที่มีคุณสมบัติ Quorum quenching ทนความร้อน สูงจากของเหลืออุตสาหกรรมการผลิตเอทานอลและการประยุกต์ใช้ในการควบคุมโรค AHPND ในกุ้ง ขาว” สอดคล้องกับนโยบาย วิสัยทัศน์ไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) ซึ่งเป็นภารกิจส าคัญของรัฐบาลใน การขับเคลื่อน ปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ การสร้างหนทางพัฒนาประเทศให้สามารถรับมือกับโอกาสและ ภัยคุกคามแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างเร็วและรุนแรงในศตวรรษที่ 21 และเป้าประสงค์ที่จะท าให้ ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักประเทศก าลังพัฒนา เป็นเหตุให้ประเทศไทยต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เศรษฐกิจไปสู่ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” หรือ“Value–Based Economy” ซึ่งมีแนวคิด 2 หลักส าคัญ คือ การเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม และเปลี่ยนจากการ ขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และ นวัตกรรม หากมองในอีกมุมหนึ่งโครงการนี้เป็นนวัตกรรมที่น าเอาวัสดุเหลือจากอุตสาหกรรมการผลิตเอ ทานอลเพื่อใช้เป็นพลังงาน ซึ่งเป็นของเสียจ านวนมหาศาลมาใช้เป็นวัตถุดิบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สาร ออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีศักยภาพในการควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียก่อโรค AHPND ซึ่งเป็น ปัญหาส าคัญของการเพาะเลี้ยงกุ้งของไทยและทั่วโลก รวมถึงเป็นการแสดงถึงเทคโนโลยีการเลี้ยงที่ไม่ พึ่งพายาปฏิชีวนะและสารเคมีอันตรายของไทย ซึ่งประเด็นการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ การกีดกันทางการค้าโดยใช้คุณภาพของผลผลิตกุ้งที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นเกณฑ์ อีกทั้งเทคโนโลยีนี้ยัง ท าให้เกิดความยั่งยืนในการเลี้ยงกุ้งขาว เนื่องจากผลิตภัณฑ์สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพซึ่งเป็นผลผลิตจาก โครงการวิจัยเป็นผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีภายในประเทศ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการวิจัยเรื่อง นี้จึงเป็นโครงการที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 12 ที่มุ่งเน้นพัฒนาระบบ เศรษฐกิจของไทยให้มีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ โดยการใช้ความรู้และนวัตกรรมเป็นเครื่องมือในการ ขับเคลื่อน ซึ่งมีเป้าหมายรวมเพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจที่มีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ และให้ ความส าคัญต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ในยุทธศาสตร์การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการ พัฒนาที่ยั่งยืน (4.4) โดยมีแนวทางการพัฒนาส าคัญที่ 4 ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่เป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ โครงการวิจัยนี้ยังสอดคล้องกับรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทยรูปแบบ ใหม่ที่เรียกว่า BCG Economy Model ที่ต่อยอดจากความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลาย ในอาชีพทางเกษตรกรรมของคนไทย โดยมีแนวคิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพให้คุ้มค่ามาก ที่สุด มีการน าวัสดุกลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด รวมถึงมุ่งแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อโลก เนื่องจากโครงการนี้จะน าของเสียจากอุตสาหกรรมการผลิตเอทานอลมาใช้ประโยชน์และเพิ่มมูลค่า นอกจากจะเป็นการเพิ่มมูลค่าและใช้ประโยชน์ของเสียและวัสดุเหลือใช้แล้ว ยังเป็นการจัดการของเสียซึ่ง อาจมีผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานจากเอทา นอลเพิ่มมากขึ้น จึงมีการผลิตที่มากขึ้นและส่งผลให้เกิดของเสียมากขึ้นตามก าลังการผลิต หากการจัดการ ไม่เหมาะสมอาจมีการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดมลพิษ เนื่องจากของเสียมีปริมาณสารอาหารสูง นอกจากนี้องค์ความรู้และผลผลิตจากโครงการวิจัยนี้จะช่วยสร้างความเข็มแข็งและภูมิคุ้มกันให้กับ เกษตรกรรวมถึง SME ในการผลิตปัจจัยการเลี้ยงกุ้ง โดยเฉพาะสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในการควบคุมเชื้อ ก่อโรคและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งในอนาคตอาจน าไปสู่สัตว์น้ าและสัตว์เศรษฐกิจอื่นต่อไป
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ดร. กิตติชนม์ อุเทนะพันธุ์คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ60
2นิอร จิรพงศธรกุลคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย40