โครงการวิจัย
คอนกรีตพรุนจากวัสดุเหลือทิ้งจากงานก่อสร้าง
Porous Concrete from Waste Materials
รายละเอียดโครงการ
| ปีงบประมาณ | 2560 |
| หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
| ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
| ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
| ประเภทงานวิจัย | |
| วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2559 |
| วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2560 |
| วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2559 |
| ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
| สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
| เลขที่สัญญา | |
| เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
| เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
| บทคัดย่อโครงการ | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการนำวัสดุเหลือทิ้งจากงานก่อสร้าง คือเศษคอนกรีตบล็อก เศษอิฐมวลเบามาผสมเป็นมวลรวมหยาบในการผลิตคอนกรีตพรุน เปรียบเทียบคุณสมบัติด้านต่าง ๆ ของคอนกรีตพรุนในอัตราส่วนที่แตกต่างกันโดยทำการทดสอบกำลังรับแรงอัด การไหลผ่านของน้ำ และการขัดสีของคอนกรีต โดยปรับเปลี่ยนปริมาณของซีเมนต์เพสต์ที่เป็นวัสดุเชื่อมประสานที่อัตราส่วนร้อยละ 40, 42, 44, 46 และ 48 ของน้ำหนักวัสดุเหลือทิ้งจากงานก่อสร้าง และเลือกอัตราส่วนที่เหมาะสมมาทดสอบการใช้งานจริงด้วยการทำที่จอดรถยนต์ส่วนบุคคล จากผลการทดสอบคุณสมบัติของคอนกรีตพรุนผสมเศษคอนกรีตบล็อก เป็นวัสดุมวลรวมหยาบ พบว่าเมื่อเพิ่มปริมาณของซีเมนต์เพสต์ทำให้คอนกรีตพรุนผสมเศษคอนกรีตบล็อกมีกำลังรับแรงอัดเพิ่มขึ้น แต่การขัดสีของคอนกรีต การไหลผ่านของน้ำ มีค่าลดลง ซึ่งพบว่าที่ CB-48 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ผสมซีเมนต์เพสต์ร้อยละ 48 ของน้ำหนักเศษคอนกรีตบล็อก สามารถรับกำลังอัดได้สูงสุดถึง 110.61 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร มีค่าการไหลผ่านของน้ำอยู่ที่ 1.36 เซนติเมตรต่อวินาที และการขัดสีของคอนกรีตเพียง 7 กรัม จากการทดลองใช้งานจริงโดยการนำรถยนต์ส่วนบุคคล มาจอดบริเวณพื้นคอนกรีตพรุนนั้นพบว่าสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้โดยไม่มีการแตกร้าวและยังสามารถระบายน้ำลงสู่พื้นดินได้เป็นอย่างดี เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นคอนกรีตทั่วไป ในส่วนของผลการทดสอบคุณสมบัติของคอนกรีตพรุนผสมเศษอิฐมวลเบาเป็นวัสดุมวลรวมหยาบ พบว่าการเพิ่มปริมาณของซีเมนต์เพสต์จะทำให้คอนกรีตพรุนมีค่ากำลังอัดเพิ่มขึ้น มีค่าการขัดสีผิวหน้าคอนกรีตและค่าการไหลผ่านของน้ำลดลง และพบว่าการใช้อิฐมวลเบาที่ค้างบนตะแกรงขนาด 9.53 mm ให้ค่าการไหลผ่านของน้ำดีกว่าการใช้อิฐมวลเบาที่ค้างบนตะแกรงขนาด 4.75 mm ส่วนการนำไปประยุกต์ใช้แนะนำให้ใช้อัตราส่วนปริมาณปูนซีเมนต์ร้อยละ 44-46 ของน้ำหนักอิฐมวลเบา |
| รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
| เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
| ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
|---|---|---|---|---|
| 1 | รศ. จรูญ เจริญเนตรกุล | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | หัวหน้าโครงการ | 70 |
| 2 | เฉลิม ศิริรักษ์ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 30 |