โครงการวิจัย
ความไม่ชอบน้ำ การยับยั้งแบคทีเรียและการต้านรังสียูวีของผ้าฝ้ายเคลือบไทเทเนียมไดออกไซด์เจือด้วยซิลิกา
Superhydrophobic, antibacterial activity and UV blocking of cotton fabrics coated with TiO2 doped SiO2
รายละเอียดโครงการ
| ปีงบประมาณ | 2560 |
| หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
| ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
| ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
| ประเภทงานวิจัย | |
| วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2559 |
| วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2560 |
| วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2559 |
| ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
| สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
| เลขที่สัญญา | |
| เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
| เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
| บทคัดย่อโครงการ | การเตรียมผ้าฝ้ายเคลือบไทเทเนียมไดออกไซด์เจือด้วยซิลิกาและไคโตซานมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและพัฒนาผ้าฝ้ายให้มีความสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และสมบัติไม่ชอบน�้ำเพื่อความสามารถ ท�ำความสะอาดตัวเองได้ ซึ่งผ้าฝ้ายที่มีสมบัติดังกล่าวเตรียมได้โดยการการจุ่มเคลือบสารโฟโตแคตะไลติก ของไทเทเนียมไดออกไซด์เจือด้วยซิลิกาและไคโตซานที่สังเคราะห์ด้วยวิธีโซล-เจลลงบนผืนผ้า ซึ่งผ้า เคลือบสารดังกล่าวแสดงสมบัติความไม่ชอบน�้ำซึ่งได้จากการทดสอบวัดมุมสัมผัสของหยดน�้ำบนพื้นผิวผ้า การทดสอบสมบัติการยับยั้งแบคทีเรียโดยใช้เชื้ออิโคไล (E. coli) และสแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส (S. aureus) ภายใต้การมาตรฐานการทดสอบสิ่งทอ AATCC นอกจากนี้ผ้าฝ้ายที่เคลือบวัสดุผสมแล้ว ยังมีการศึกษาโครงสร้างจุลภาคด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM) และองค์ประกอบ ทางเคมีวิเคราะห์ด้วยเทคนิค FTIR ผลจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเคลือบผ้าฝ้ายท�ำให้พื้นผิวผ้า มีความไม่ชอบน�้ำเพิ่มขึ้น และสามารถยับยั้งแบคทีเรียทั้ง 2 ชนิด ได้สูงถึง 100 เปอร์เซ็นต์ หลังจากผ่าน ไป 24 ชั่วโมง คัญสำคัญ: ผ้าฝ้าย ความไม่ชอบน้ำการยับยั้งแบคทีเรีย |
| รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
| เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
| ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
|---|---|---|---|---|
| 1 | ผศ. พิชญา พิศสุวรรณ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | หัวหน้าโครงการ | 60 |
| 2 | ดร. มาหามะสูไฮมี มะแซ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 40 |